
- “รมต.สาธารณสุขบอกว่า วัคซีนจะเพียงพอและมาทันเวลา”
- “CEO อาวุโสท่านหนึ่งเคยบอกว่า โควิดจะอยู่แค่ 1 ปี”
- “เขามีชื่อเสียง ใครๆ ก็ชอบ…เราก็น่าจะไว้ใจเค้าได้”
- “…แต่เขาเป็นถึงด็อกเตอร์เชียวนะ”
แม้คุณจะไม่เห็นดีงามกับอีกฝ่ายนัก แต่สุดท้ายก็สมยอมเพียงเพราะตำแหน่ง ชื่อเสียง สถานะของอีกฝ่าย
…ระวังให้ดี คุณติดกับดัก “Appeal to Authority” เข้าอย่างจังแล้ว!!
Appeal to Authority: ตรรกะวิบัติด้วยการอ้างเหล่ากูรู
Appeal to Authority คือการฉกฉวยผลประโยชน์ด้วยการใช้ ตำแหน่ง / ยศ / ชื่อเสียง / ประสบการณ์ / อำนาจ / หรือความเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มี เพื่อบิดเบือนข้อมูลหรือโน้มน้าวใจอีกฝ่าย
โดยปราศจากการพิจารณาถึง
- ความสมเหตุสมผล
- ความสามารถที่แท้จริง
- ผลงานความสำเร็จที่ประจักษ์
- หรือแม้แต่การตั้งคำถามวิพากษ์วิจารณ์
ซึ่งสุดท้ายมักนำคุณไปสู่ปัญหาใหม่หรือพบกับการตัดสินใจที่ผิดพลาด
ทำไมได้ยินแล้วช่างดูเย้ายวนใจ?
Appeal to Authority มักมีกลิ่นอายความ “น่าเชื่อถือ” ณ แว่บแรกที่ได้ยิน เพราะชื่อเสียงคุณสมบัติความเป็นกูรู / ตำแหน่ง / ยศถาบรรดาศักดิ์…แต่มันก็ไม่เสมอไป เพราะกูรูเองก็ไม่ได้รู้ครอบคลุมทุกเรื่อง และไหนจะอคติส่วนตัวที่เกิดขึ้นได้
สังคมแบบ “อำนาจนิยม” (Powerism) ซึ่งมีระดับชั้นทางสังคม และ การปฏิบัติแบบอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้อาวุโสกว่าอย่างแข็งขัน จะมีโอกาสตกเป็นเป้าโจมตีจาก Appeal to Authority สูงเป็นพิเศษ
ในทางปฏิบัติ มักเป็นกลลวงที่ “ฝ่ายผู้มีอำนาจ” ใช้กับผู้ไม่มีอำนาจหรืออยู่ใต้บังคับบัญชา เพราะทรงพลังมากกว่า ภาพลักษณ์ดูน่าเชื่อถือกว่า
Appeal to Authority รอบตัวเรา
คำพูดทำนอง “เชื่อพี่เถอะ…พี่ผ่านมาเยอะแล้ว” คือตัวอย่างสุดคลาสสิกที่เจอในทุกวงการ เพราะแม้จะมีประสบการณ์ผ่านมาเยอะ แต่ประสบการณ์ในอดีตนั้นอาจไม่เกี่ยวข้องหรือสลักสำคัญ (Irrelevant) ต่อสถานการณ์ปัจจุบันอีกต่อไปแล้ว
บรรดากูรูไลฟ์โค้ชที่ออกมา “ชี้ช่องทางรวย” จนผู้คนเคลิบเคลิ้มใจว่าถ้าปฏิบัติตาม ก็น่าจะสำเร็จได้เช่นกัน แต่ความจริงแล้ว ทุกคนต่างมีบริบทชีวิต / อุตสาหกรรมที่อยู่ / สถานการณ์ที่แตกต่างกัน…จนไม่สามารถเลียนแบบได้ง่ายๆ
ใน “วงการโฆษณา” คืออีกสถานที่เกิด Appeal to Authority อันทรงพลังจากบรรดานักกีฬาระดับโลก / นักแสดงมากเสน่ห์ / นายแบบ-นางแบบหน้าตาดี…รองเท้ากีฬาบางยี่ห้อถูกยกให้เป็นรองเท้าที่ดีที่สุดในโลก เพียงเพราะนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จสวมใส่ขณะแข่ง (และกล่าวเอ่ยถึง)
ช่วงที่โควิด-19 ระบาดใหม่ๆ มี CEO อาวุโสบางคนกล่าวว่า เป็นเพียงวิกฤติระยะสั้น 1-2 ปีเท่านั้น ส่วนระยะกลาง-ยาว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง…แม้ 1-2 ปีผ่านมา หลายแห่งจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวแล้ว แต่โควิด-19 ได้ Disrupt พื้นฐานหลายอย่างจนเปลี่ยนไปตลอดกาล
รัฐมนตรีสาธารณสุขประกาศออกสื่อต่อประชาชนว่า วัคซีนโควิด-19 จะมาทันเวลาและเพียงพอต่อทุกคนแน่นอน จนสร้างความหวังครั้งใหญ่ให้ประชาชน เพราะเห็นว่า “เค้าเป็นถึงรมต.เชียวนะ”
วิธีป้องกัน-ดูให้ออก
ความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของเหล่ากูรูในสาขาต่างๆ มักเย้ายวนจนน่าคล้อยตาม เป็นเรื่องยากที่จะห้ามตัวเองไม่ให้รู้สึกแบบนั้นได้ แต่…เราห้ามตัวเองให้หยุดและ “ฉุกคิด” หลังจากนั้นได้
- แม้เป็นถึงรมต.สาธารณสุข แต่ที่ผ่านมา วัคซีนไม่พอและมาถึงล่าช้าตลอด
ในเมื่อไม่มีใครเก่งไปหมดทุกเรื่อง ให้ลอง “วิพากษ์วิจารณ์” (Critical analysis) ความเป็นกูรูคนนั้นให้ลึกขึ้น อาจพบว่า คำแนะนำนั้นไม่น่าจะประยุกต์ใช้กับคุณได้โดยตรง
- คำแนะนำการทำธุรกิจของ CEO คนนั้น มาจากการได้อานิสงส์บวกจากโควิด-19 (อยู่ใน K-shaped recovery ขาขึ้น) แต่ธุรกิจคุณได้รับผลขาลงเต็มๆ คำแนะนำนั้นจึงไม่น่าประยุกต์ใช้ได้ซักเท่าไร
Appeal to Authority จะยังคงอยู่กับเราไป เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ให้ค่ากับ “ตัวบุคคล” เป็นส่วนหนึ่งของสัญชาตญาณไปแล้ว
แต่ถ้าเรายกระดับการใช้ “ตรรกะเหตุผล” คิดหน้าคิดหลังซะบ้าง สงสัยมากขึ้นหน่อย วิเคราะห์เชิงลึกขึ้นอีกที ก็น่าจะทำให้เรามี “ภูมิคุ้มกัน” ไม่โดนหลอกเอาได้ง่ายๆ
ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ…จะได้มีความสุขในการทำงานทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/
ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com
ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/
อ้างอิง